คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว

บริษัท สติวเดนท์แคร์ จำกัด (“Student Care” “เรา” หรือ “พวกเรา” หรือ “บริษัทฯ”) จะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบุคคล (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) เพื่อให้บริการแอปพลิเคชัน Student Care รวมถึงการให้บริการแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ Student Care ทั้งหมด (ต่อไปนี้รวมเรียกว่า “บริการฯ”)

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“นโยบายความเป็นส่วนตัว”) อธิบายถึงประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่เราทำการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
และวิธีการที่ผู้ใช้บริการ (“ท่าน”) สามารถจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

คำนิยาม

“บริษัท” หมายถึง บริษัท สติวเดนท์ แคร์ จำกัด

“ผู้ใช้บริการ” ได้แก่
    – “นักเรียน” หมายถึง ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นผู้เยาว์ หรือเป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว
    – “ผู้ปกครอง” หมายถึง ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และให้หมายความรวมถึงผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ ผู้อนุบาล ที่มีอำนาจกระทำการแทน
      คนไร้ความสามารถ หรือผู้พิทักษ์ที่มีอำนาจกระทำการแทนคนเสมือนไร้ความสามารถ
    – “บุคคลากรทางการศึกษา” หมายถึง ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงเรียน เช่น ครู ผู้บริหาร พนักงานอัตราจ้าง เป็นต้น
    – “ผู้ใช้งานเว็บไซต์” หมายถึง ผู้ที่เข้าใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท (student.co.th)
    – “ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่นๆ” หมายถึง ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการของบริษัทที่นอกเหนือจาก นักเรียน ผู้ปกครอง บุคคลากรทางการศึกษา และผู้ใช้งานเว็บไซต์

“การประมวลผลข้อมูล” หมายถึง การกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดต่อข้อมูล ไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม เช่น การเก็บรวมรวม การบันทึก การจัดระบบ การจัดเรียง การจัดเก็บ การแปลงหรือการเปลี่ยนแปลงแก้ไข การค้นคืน การค้นหา การใช้ การเปิดเผยโดยการส่ง การแพร่กระจาย หรือการทำให้ล่วงรู้ได้โดยวิธีอื่น การวางเคียงกันหรือการรวมกัน การจำกัด การลบหรือการทำลาย
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดา ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่า ทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ข้อมูลลายนิ้วมือ ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลภาพจำลองม่านตา) หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
“การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เก็บรวบรวม บันทึก สำเนา จัดระเบียบ เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ใช้ กู้คืน เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน รวม ลบ ทำลาย เป็นต้น
“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท เก็บรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ จากแหล่งข้อมูลดังต่อไปนี้
       (2.1) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงในช่องทางให้บริการต่าง ๆ เช่น ขั้นตอนการสมัคร ลงทะเบียน การลงทะเบียนเข้ารับบริการ
       SaaS หรือผ่านช่องทางออนไลน์ สมัครงาน ลงนามในสัญญา เอกสาร ทำแบบสำรวจ หรือช่องทางให้บริการอื่นที่ควบคุมดูแลโดยบริษัท หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
       ติดต่อสื่อสารกับบริษัท ณ ที่ทำการหรือผ่านช่องทางติดต่ออื่นที่ควบคุมดูแลโดยบริษัท เป็นต้น
       (2.2) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวมโดยทางอ้อม ได้แก่ บุคคลที่มีความใกล้ชิดกับท่าน เช่น ญาติ คู่สมรส บุคคลที่ท่านมอบอำนาจให้ดำเนินการแทนตัวท่านในการติดต่อ
       กับบริษัท
       (2.3) ข้อมูลที่บริษัท เก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ หรือบริการอื่น ๆ ตามสัญญาหรือตามพันธกิจ เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งาน
       เว็บไซต์ หรือบริการของบริษัท ด้วยการใช้คุกกี้ (Cookies) หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
       (2.4) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยที่แหล่งข้อมูลดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายหรือได้รับ
       ความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้วในการเปิดเผยข้อมูลแก่ บริษัท เช่น การเชื่อมโยงบริการดิจิทัลของหน่วยงานของรัฐในการให้บริการเพื่อประโยชน์สาธารณะ
       แบบเบ็ดเสร็จแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเอง การรับข้อมูลส่วนบุคคลจากหน่วยงานของรัฐแห่งอื่นในฐานะที่ บริษัท มีหน้าที่ตามพันธกิจในการดำเนินการจัดให้มีศูนย์
       แลกเปลี่ยนข้อมูล กลางเพื่อสนับสนุนการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐในการให้บริการประชาชนผ่านระบบดิจิทัล รวมถึงจากความจำเป็นเพื่อให้บริการตามสัญญาที่
       อาจมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลกับหน่วยงานคู่สัญญาได้
    นอกจากนี้ ยังหมายความรวมถึงกรณีที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่ บริษัท ดังนี้ ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งรายละเอียดตามนโยบายนี้หรือประกาศของบริการ ตามแต่กรณี ให้บุคคลดังกล่าวทราบ ตลอดจนขอความยินยอมจากบุคคลนั้นหากเป็นกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลแก่บริษัท ทั้งนี้ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นในการให้บริการของบริษัท อาจเป็นผลให้บริษัท ไม่สามารถให้บริการได้อย่างถูกต้องแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ทั้งหมดหรือบางส่วน

ข้อมูลที่บริษัท เก็บรวบรวม สามารถจำแนกออกเป็นประเภทดังต่อไปนี้

บริษัท มีวัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
       (4.1) เพื่อการให้บริการทางการเรียนการศึกษาแก่ท่านในทุกช่องทาง ซึ่งรวมถึง การระบุตัวตนของนักเรียน การการบันทึกการมาเรียน และแจ้งเตือนการไปให้ผู้ปกครองได้รับทราบ การวิเคราะห์ รวมรวมสถิติต่าง ๆ และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการศึกษาต่อ แนะแนวสิ่งที่ต้องปรับปรุงหรือส่งเสริมการเรียนรู้เพิ่มเติม แก่ท่าน การดูแลให้ความปลอดภัยแก่ท่านขณะมา โรงเรียน เป็นต้น
       (4.2) เพื่อการค้นคว้า วิจัย ทดลอง และพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆ หรือ ปรับปรุงหลักสูตรการสอน เป็นต้น
       (4.3) เพื่อการศึกษาวิจัยหรือการจัดทำสถิติ รายงานที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของบริษัทตามที่กฎหมายกำหนด
       (4.4) เพื่อให้บริษัท สามารถให้ความช่วยเหลือตอบข้อซักถามและข้อร้องเรียนของท่าน
       (4.5) เพื่อเชิญท่านเข้าร่วมกิจกรรมโครงการต่าง ๆ ของบริษัท เพื่อช่วยบริษัท พัฒนาปรับปรุงบริการ และการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ บริการ หรือร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัท โดยการเข้าร่วมดังกล่าวขึ้นอยู่กับความสมัครใจและจะไม่กระทบต่อการเข้าถึงบริการของบริษัท
       (4.6) เพื่อเป็นการป้องกันการกระทำที่ไม่เหมาะสมหรือผิดกฎหมาย บริษัท อาจมีการตรวจสอบข้อมูลที่เก็บ รวบรวม รวมถึงข้อมูลในกล้อง CCTV เพื่อสอดส่องดูแล ตรวจจับ และป้องกันไม่ให้มีการกระทำที่ไม่เหมาะสมหรือผิดกฎหมาย
       (4.7) เพื่อปกป้องและระงับอันตรายที่อาจเกิดกับท่าน อาจมีการใช้ข้อมูลของท่านในกรณีที่บริษัท เห็นว่าอาจมีความเสี่ยงหรืออันตรายอย่างร้ายแรงหรือมีการละเมิดต่อท่านหรือผู้ใดก็ตาม
       (4.8) เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับหรือปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท

บริษัท จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลา ตราบเท่าที่วัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ยังคงมีอยู่ หลังจากนั้นบริษัท จะลบ ทำลายข้อมูล หรือทำให้ข้อมูลไม่สามารถระบุตัวตนได้ เว้นแต่กรณีจำเป็นต้องเก็บ รักษาข้อมูลต่อไปตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด หรือเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของบริษัท โดยปกติในกรณีทั่วไประยะเวลาการเก็บข้อมูลจะไม่เกินกำหนดระยะเวลา 10 (สิบ) ปี เว้นแต่จะมีกฎหมายกำหนดให้เก็บรักษา ข้อมูลไว้เป็นระยะเวลานานกว่าที่กำหนดไว้ดังกล่าวข้างต้น หรือหากมีความจำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ เช่น เพื่อความปลอดภัย เพื่อการป้องกันการละเมิดหรือการประพฤติมิชอบ หรือเพื่อการเก็บบันทึกทางการเงิน

บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่มีฐานการประมวลผลข้อมูลโดยชอบด้วย กฎหมาย เว้นแต่
       (6.1) ได้รับความยินยอมจากท่าน
       (6.2) จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
       (6.3) จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อปกป้องสิทธิหรือทรัพย์สินของบริษัท
       (6.4) จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลให้กับหน่วยงานภาครัฐ

บริษัท อาจทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปให้สถาบันการเงินธนาคาร บริษัทบัตรเครดิต บริษัทประกันภัยที่เป็นคู่สัญญาของท่าน หรือหน่วยงานทวงถามหนี้ ตามที่จำเป็นในการทำการจ่ายและรับชำระเงินตามที่มีการร้องขอ โดยบริษัท จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลที่มีอำนาจในการเข้าถึง ข้อมูลดังกล่าวตามที่กฎหมายกำหนด และสามารถพิสูจน์ได้ว่าตนมีอำนาจในการเข้าถึงดังกล่าวเท่านั้น

บริษัท อาจทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงาน ราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การรายงานกับหน่วยงานกำกับดูแลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายอื่นใดที่บริษัทต้องปฏิบัติตาม

บริษัท อาจทำเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในระบบประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud Computing) โดยใช้บริการจากบุคคลที่สามไม่ว่าตั้งอยู่ในประเทศไทยหรือต่าง ประเทศ หรือ ผู้ให้บริการเซิร์ฟเวอร์ สำหรับเว็บไซต์ การวิเคราะห์ข้อมูล การประมวลผลการจ่ายและรับชำระเงิน การทำคำสั่งซื้อ การให้บริการโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น
     ในกรณีที่โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา (ลูกค้า) มีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลบริษัท จะใช้มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกัน ด้านการบริหารจัดการ (Administrative Safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (Technical Safeguard) และ มาตรการป้องกันทางกายภาพ (Physical Safeguard) ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (Access Control) เพื่อป้องกันการเข้าถึงและเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และสอดคล้องกับ การดำเนินงานของบริษัท และมาตรฐานที่รับรองโดยทั่วไปบริษัท กำหนดให้เจ้าหน้าที่ของบริษัท เข้ารับการฝึกอบรมเกี่ยวกับ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล การจัดจ้างผู้ให้บริการภายนอก บริษัท จะมีการสอบทานและปรับปรุงมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการภายนอกที่บริษัท ทำการว่าจ้างจะมีการใช้มาตรการในการ เก็บรวบรวม ประมวลผล โอนย้าย จัดการ และรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลอย่างเพียงพอในการให้บริการภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัท เป็นไปตามมาตรฐานต่าง ๆ ของประเทศ และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องบริษัท จัดทำนโยบายและขั้นตอนวิธีการต่าง ๆ เพื่อการจัดการข้อมูลอย่างปลอดภัย และป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • กำหนดนโยบายและขั้นตอนวิธีการต่าง ๆ เพื่อจัดการข้อมูลอย่างปลอดภัย และอาจกำหนดเพิ่มเติมในสัญญาระหว่างบริษัท กับคู่สัญญาแต่ละราย

  • มีการบริหารจัดการสิทธิของพนักงานและลูกจ้างในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล อย่างเหมาะสม

  • ป้องกันการเข้าถึงข้อมูลของท่านโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยใช้การเข้ารหัสข้อมูล การตรวจสอบตัวตนและเทคโนโลยีการตรวจจับไวรัส ตามความจำเป็น รวมถึงจัดให้มีช่องทางการสื่อสารแบบปลอดภัยสำหรับ ข้อมูลดังกล่าวด้วยการเข้ารหัสลับข้อมูลดังกล่าว เช่น จัดให้มีการใช้ Secure Socket Layer (SSL) protocol เป็นต้น

  • บริหารจัดการให้ ผู้ให้บริการภายนอกที่บริษัท ทำการว่าจ้าง ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ ตามกฎหมาย และระเบียบต่างๆ ว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  • มีติดตามตรวจสอบเว็บไซต์และระบบออนไลน์ของบริษัท ผ่านหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความมั่นคงปลอดภัย

  • จัดให้มีการฝึกอบรมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลากรของบริษัท

  • ประเมินผลแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การจัดการข้อมูล และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลของบริษัท เป็นประจำ

     อย่างไรก็ดีแม้ว่าบริษัท จะทุ่มเทและใช้ความพยายามในการดูแลข้อมูลให้มีความปลอดภัย ด้วยการใช้เครื่องมือ ทางเทคนิคร่วมกับการบริหารจัดการโดยบุคคล เพื่อควบคุมและรักษาความปลอดภัยของข้อมูล มิให้มีการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลที่เป็นความลับของเจ้าของข้อมูลโดยไม่ได้รับสิทธิของเจ้าของข้อมูลในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลท่านมีสิทธิร้องขอให้บริษัท ดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ ดังนี้
    – สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคล : เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของตน และมีสิทธิที่จะ ร้องขอให้ เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลของเจ้าของข้อมูล
    – สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล : เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะคัดค้านการเก็บ รวบรวม ใช้หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับตนได้ ด้วยเหตุบางประการตามที่กฎหมายกำหนด
    – สิทธิในการขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล : เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลสามารถดำเนินการยื่นคำขอแก้ไขข้อมูลดังกล่าวได้ เพื่อทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของ เจ้าของข้อมูลนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
    – สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม : เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ โดยการถอนความยินยอมดังกล่าวจะไม่กระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านี้ ทั้งนี้หากการถอนความยินยอมจะส่งผลกระทบต่อข้อมูลส่วนบุคคลในเรื่องใด บริษัท จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบถึงผลกระทบจากการถอนความยินยอม อนึ่ง บริษัท อาจปฏิเสธคำขอใช้สิทธิข้างต้น หากการดำเนินการใด ๆ เป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์หรือเป็นกรณีที่ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือเป็นกรณีที่อาจส่งผลกระทบและก่อให้ เกิดความเสียหายต่อสิทธิหรือเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลหรือบุคคลอื่น หรือเป็นการดำเนินการเพื่อการศึกษาวิจัยทางสถิติที่มีมาตรการปกป้องข้อมูลที่เหมาะสม หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้อง การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องหรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายหากท่านต้องการใช้สิทธิ สามารถติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ประสานงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ประจำหน่วยงาน เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้น ได้ตามช่องทาง ดังนี้
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO)
Email sdcdpo@studentcare.com
บริษัท สติวเดนท์ แคร์ จำกัด
21 ซอยประเสริฐมนูกิจ 29 แยก 7 ถนนประเสริฐมนูกิจ
แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 10230
โทร: 080-808-6001

บริษัท จะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อผู้รับข้อมูลในต่างประเทศ เฉพาะกรณีที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลกำหนดให้ทำได้เท่านั้น ทั้งนี้ บริษัท อาจปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การโอนข้อมูลระหว่างประเทศ โดยเข้าทำข้อสัญญามาตรฐานหรือใช้กลไกอื่นที่พึงมีตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลที่ใช้บังคับ และบริษัท อาจอาศัยสัญญาการโอนข้อมูล หรือกลไกอื่นที่ได้รับการอนุมัติ เพื่อการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

        บริษัท สติวเดนท์แคร์ จำกัด (“Student Care” “เรา” หรือ “พวกเรา” หรือ “บริษัทฯ”) จะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบุคคล (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) เพื่อให้บริการแอปพลิเคชัน Student Care รวมถึงการให้บริการแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ Student Care ทั้งหมด (ต่อไปนี้รวมเรียกว่า “บริการฯ”)

บริษัท สติวเดนท์แคร์ จำกัด (“Student Care” “เรา” หรือ “พวกเรา” หรือ “บริษัทฯ”) ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลบริษัท สติวเดนท์แคร์ จำกัด เราจึงได้มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อช่วยชี้แจงให้ทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายว่าด้วยการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสติวเดนท์แคร์

  นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสติวเดนท์แคร์                      Download

ประกาศใช้ ณ วันที่ 01/07/2567

ประกาศความเป็นส่วนตัวข้อมูลสำหรับการใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (Privacy Notice – CCTV)

บริษัท สติวเดน แคร์ จำกัด (“บริษัท”) ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วน บุคคลตาม พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึง รายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ผ่านการใช้ อุปกรณ์กล้องวงจรปิด (CCTV) ในพื้นที่ของบริษัท รายละเอียดดังต่อไปนี้
ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ครอบคลุมถึงบุคคลธรรมดาที่เข้ามาในบริเวณพื้นที่ของบริษัท และพื้นที่ที่บริษัทให้บริการ ซึ่งหมายความรวมถึง ผู้ติดต่อ บุคลากร ลูกค้า คู่ค้า ของบริษัท โดยเรียกรวมกันว่า “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” “ลูกค้า” หรือ “ท่าน”

วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย ฐานเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้อง ฐานป้องกันอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ ฐานบรรลุวัตถุประสงค์ทางกฎหมายเพื่อการจัดการด้านเวชศาสตร์ การคุ้มครองสังคมและแรงงาน และฐานอื่นๆ ที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาตเท่านั้น เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
– เพื่อยืนยันตัวตน
– เพื่อปกป้องชีวิต ร่างกาย สุขภาพ หรือทรัพย์สินส่วนตัวของบุคคล
– เพื่อควบคุมการเข้ามาภายในพื้นที่ของบริษัท และเพื่อการรักษาความปลอดภัยของอาคาร บุคลากร พนักงาน และผู้มาติดต่อ รวมทั้งทรัพย์สินและข้อมูลของบริษัท
– เพื่อการปกป้อง/ป้องกันสถานที่ อาคาร พื้นที่ต่างๆ และทรัพย์สินของบริษัท จากความเสียหายและอาชญากรรมอื่นๆ
– เพื่อช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาททางแพ่ง ทางอาญา และทางกฎหมายอื่นๆ
– เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น การสืบสวนสอบสวนของหน่วยงานรัฐ การให้ความร่วมมือ กับศาล หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย
      บริษัทจะติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ที่จุดสำคัญภายในสถานที่ อาคารและพื้นที่ต่างๆ ของบริษัท แต่จะไม่ติดตั้ง ในบางพื้นที่ เช่น ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ในห้องน้ำ เป็นต้น และบริษัทจะมีป้ายแจ้งเตือนในสถานที่ที่มีการใช้งาน เกี่ยวกับกล้องวงจรปิด (CCTV)
      ในกรณีที่บริษัทต้องขอข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน เพื่อเข้าทำหรือปฏิบัติตามสัญญา หรือปฏิบัติตาม กฎหมาย หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว บริษัทอาจจะไม่สามารถดำเนินการตามที่ท่านประสงค์ได้

บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงจากท่านผ่านระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) โดยมีข้อมูลส่วน บุคคลที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
– ภาพเคลื่อนไหว ภาพนิ่ง เสียง เกี่ยวกับบุคคลธรรมดา
– ภาพเคลื่อนไหว ภาพนิ่ง เสียง เกี่ยวกับทรัพย์สิน ยานพาหนะ ของบุคคลธรรมดา

หน่วยงานรัฐ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ศาล หรือหน่วยงาน อื่นใด ที่อาศัยอำนาจตามกฎหมาย
ผู้ให้บริการภายนอก เช่น ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการรักษา ความปลอดภัย ผู้ประเมินผลเพื่อการบริหารจัดการองค์กร ผู้ตรวจสอบภายนอก ที่ปรึกษาด้านต่าง ๆ เช่น ที่ปรึกษากฎหมาย
บุคคลภายนอกอื่นๆ เช่น บริษัทในเครือกิจการ ลูกค้า คู่ค้า บุคคลผู้เสียหาย

กรณีที่มีเหตุต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ บริษัทจะปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ ของ กฎหมายคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล และใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล โดยปราศจาก อำนาจหรือโดยมิชอบ

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้อง ตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ทั้งนี้ บริษัทอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมาย กำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น เก็บไว้ไม่เกิน 10 ปีตามอายุความกฎหมาย เป็นต้น

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measures) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measures) เพื่อรักษาความปลอดภัยใน การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลตามหลักเกณฑ์ที่ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

(1) สิทธิเพิกถอนความยินยอม
      ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อการพิจารณางาน สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ท่านพึงได้รับจากบริษัท หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษาและสอบถาม ถึงผลกระทบ ก่อนเพิกถอนความยินยอม
(2) สิทธิเข้าถึง รับสำเนา และรับทราบการได้มา
      ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้กับท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครองของบริษัท
(3) สิทธิโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
      ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้ สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผย ข้อมูล ส่วนบุคคล ได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยัง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล อื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง
(4) สิทธิในการคัดค้าน
      ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีเพื่อการที่ จำเป็น ภายใต้ประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย หรือภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับ การตลาดแบบตรง หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ
(5) สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล
      ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้
(6) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
      ท่านมีสิทธิขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้ สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบ หรือ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้แทน
(7) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล
      ท่านมีสิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
(8) สิทธิร้องเรียน
      ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากท่านเชื่อว่า การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือ ไม่ปฏิบัติ ตามกฎหมาย
      ในกรณีที่ท่านยื่นคำร้องขอใช้สิทธิภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อบริษัทได้รับคำร้องขอ ดังกล่าวแล้ว จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด อนึ่ง บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการ ตามคำขอใช้สิทธิข้างต้น ของท่านได้ เช่น บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิของท่าน อาจละเมิด สิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น โดยบริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธ ให้ท่านทราบด้วย

หากมีการเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางที่เหมาะสม

บริษัท สติวเดนท์ แคร์ จำกัด
ที่อยู่ : 21 ซอยประเสริฐมนูกิจ 29 แยก 7 ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 10230
โทร : 080 808 6001 ถึง 5
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล : ฝ่ายกฎหมาย บริษัท สติวเดนท์ แคร์ จำกัด
ช่องทางการติดต่อ : sdcdpo@student.co.th

ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้อยู่ภายใต้การบังคับใช้ตามกฎหมายไทยและศาลไทยเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทใดที่อาจเกิดขึ้น

นโยบายการใช้คุกกี้

บริษัท สติวเดนท์ แคร์ จำกัด (เรียกว่า “บริษัทฯ”) อาจมีการใช้คุกกี้หรือเทคโนโลยีอื่นใดที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน (รวมเรียกว่า “คุกกี้”) บนเว็บไซต์และ/หรือแอปพลิเคชันของสติวเดนท์ แคร์ (รวมเรียกว่า “บริการ”) เพื่อช่วยให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้บริการ และช่วยให้บริษัทฯ สามารถพัฒนาคุณภาพของบริการให้ตอบสนองต่อความต้องการของท่านได้มากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากนโยบายการใช้คุกกี้ฉบับนี้ บริษัทฯ จะใช้งานคุกกี้ภายใต้รายละเอียดที่ระบุในคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว ซึ่งท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว

นโยบายการใช้คุกกี้ (Cookies Policy)

บริษัท สติวเดนท์ แคร์ จำกัด ให้ความสำคัญกับการกำหนดมาตรการเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า และ/หรือผู้ใช้บริการโดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้เข้าชม และ/หรือ ผู้ใช้เว็บไซต์ และตระหนักถึงความคาดหวังของผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์ว่า ข้อมูลที่ผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์ไห้ไว้กับทางบริษัทผ่านเว็บไซต์นี้ จะได้รับความคุ้มครองอย่างเหมาะสม บริษัท จึงขอประกาศ นโยบายการใช้คุกกี้ (“นโยบายการใช้คุกกี้”) สำหรับเว็บไชต์นี้ ดังนี้

คุกกี้ คือ แฟ้มข้อมูลเล็ก ๆ ที่เบราว์เซอร์จัดเก็บรักษาไว้ในคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ของท่าน คุกกี้จะช่วยเบราว์เซอร์ของท่านในการนำทางไปยังส่วนต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์ อย่างไรก็ตาม คุกกี้ไม่สามารถที่จะรวบรวมข้อมูลที่เก็บบันทึกไว้ในคอมพิวเตอร์ หรือในแฟ้มข้อมูลต่าง ๆ ของท่านได้
เมื่อเซิร์ฟเวอร์ขอให้เว็บเบราว์เซอร์อ่านข้อมูลในคุกกี้ ข้อมูลจากคุกกี้จะช่วยให้เว็บไซต์สามารถให้บริการที่เป็นมิตร หรือตรงกับความต้องการของผู้ใช้ได้มากขึ้น เพื่อคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของท่าน เบราว์เซอร์จะยอมให้เว็บไซต์เข้าถึงเฉพาะคุกกี้ที่ส่งไปให้ท่านแล้วเท่านั้น

เราใช้คุกกี้เพื่อที่จะได้เรียนรู้เพิ่มเติมว่าท่านมีปฏิสัมธ์กับเนื้อหาในเว็บไซต์ของเราอย่างไร และเพื่อช่วยในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ ที่จะให้ความพึงพอใจแก่ท่านมากยิ่งขึ้น เมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา
คุกกี้จะจดจำประเภทของเบราว์เซอร์ที่ท่านใช้ และโปรแกรมเบราว์เซอร์ที่ท่านติดตั้งเพิ่มเติม นอกจากนั้นคุกกี้ยังจะจดจำสิ่งที่ท่านชอบ เช่น ภาษา และ ภูมิภาค ซึ่งจะถูกกำหนดให้เป็นค่าตั้งอัตโนมัติเมื่อท่านกลับเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์อีก และคุกกี้จะอนุญาตให้ท่านให้คะแนนเว็บเพจต่างๆ และกรอกแบบฟอร์มแสดงความคิดเห็นด้วย
คุกกี้บางตัวที่เราใช้ เป็นคุกกี้แบบช่วงเวลา และจะคงอยู่จนกว่าท่านจะปิดเบราว์เซอร์ที่ท่านใช้ คุกกี้ตัวอื่น ๆ เป็นคุกกี้ถาวร ซึ่งจะถูกเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ของท่าน เป็นระยะเวลาที่นานกว่า

1) คุกกี้ที่จำเป็น (Strictly Necessary Cookies) คุกกี้ประเภทนี้จำเป็นสำหรับการทำงานกับเว็บไซต์ และไม่สามารถปิดการใช้งานในระบบของเราได้ และโดยปกติแล้ว คุกกี้ประเภทนี้จะถูกกำหนดไว้เพื่อตอบสนองต่อการดำเนินการร้องขอบริการของท่าน เช่น การตั้งคำความเป็นส่วนตัว การเข้าสู่ระบบ หรือการกรอกแบบฟอร์ม ท่านสามารถกำหนดให้เบราว์เซอร์ของท่านทำการบล็อก หรือเตือนให้ท่านทราบเกี่ยวกับคุกกี้ประเภทนี้ แต่นั่นอาจทำให้บางส่วนของไซต์ไม่สามารถทำงานได้
2) คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และเพื่อประสิทธิภาพ (Analytic and Performance Cookies) คุกกี้ประเกทนี้ช่วยเราในการนับจำนวน และที่มาของการเข้าชม เพื่อให้เราสามารถวัด และปรับปรุงประสิทธิภาพไซต์ของเราได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้เราทราบว่าหน้าใดได้รับความนิยมมากที่สุด และน้อยที่สุด และทราบว่าผู้เยี่ยมชมเข้าดูส่วนใดบ้าง ข้อมูลทั้งหมดที่คุกกี้ประเภทนี้จัดเก็บไว้จะถูกรวมไว้ด้วยกัน จึงทำให้ไม่สามารถระบุตัวตนได้ หากท่านไม่อนุญาตให้คุกกี้ประเภทนี้ทำงาน เราจะไม่ทราบว่าท่านเข้าชมไซต์ของเราเมื่อใด
3) คุกกี้เพื่อช่วยในการใช้งาน (Functional Cookies) คุกกี้ประเภทนี้ช่วยในการทำงานของไซต์ และการปรับแต่งไซต์ให้เหมาะกับผู้ใช้ เช่น วิดีโอ และการสนทนาสด คุกกี้ประเภทนั้นอาจได้รับการกำหนดโดยเราหรือผู้ให้บริการจากบริษัทอื่นที่เราได้เพิ่มบริการของพวกเขาลงในหน้าเพจ หากท่านไม่อนุญาตให้คุกกี้ประเภทนี้ทำงาน ฟังก์ขันบางอย่างของไซต์อาจทำงานไม่ถูกต้อง
4) คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies) คุกกี้ประเภทนี้ จะถูกกำหนดผ่านไขต์ของเราโดยพาร์ทเนอร์โฆษณาของเรา โดยบริษัทดังกล่าวอาจใช้ คุกกี้ประเภทนี้เพื่อสร้างโปรไฟล์เกี่ยวกับความสนใจของท่าน และแสดงโฆษณาที่ท่าน สนใจบนไซต์อื่นๆ คุกกี้ประเกทนี้ทำงทำงานโดยการระบุแต่ละเบราว์เซอร์และอุปกรณ์ ของท่าน หากท่านไม่อนุญาตให้คุกกี้ประเภทนี้ทำงาน ท่านจะไม่เห็นโฆษณาที่ท่านเป็น เป้าหมายบนเว็บไชต์ต่างๆ

เว็บไซต์ของเรามีการใช้คุกกี้โดยบุคคลที่สาม อันประกอบไปด้วย คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และเพื่อประสิทธิภาพ (Analytic and Performance Cookies) เช่น Google Analytics และ คุกกี้เพื่อปรับเนือหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies) เช่น google.com, youtube.com และ facebook.com ซึ่งเป็นผู้ให้บริการการวิเคราะห์ และปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย ที่แพร่หลาย และได้รับการไว้วางใจเป็นอย่างมาก ซึ่งช่วยให้บริษัทเข้าใจว่าท่านใช้เว็บไซต์อของบริษัทย่างไร และเข้าใจแนวทางในการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม อาจมีคุกกี้โดยบุคคลที่สามที่เราไม่สามารถควบคุมการใช้ข้อมูลของบุคคลที่สามนั้นได้ ดังนั้นท่านสามารถตรวจสอบ นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) และนโยบายการใช้คุกกี้ของบุคคลที่สาม ซึ่งแตกต่างจากเว็บไซต์ของเราได้ที่เว็บไซต์ของบุคคลที่สามนั้น ๆ

ท่านสามารถเลือกตั้งค่าคุกกี้แต่ละประเภท ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น (Strictly Necessary Cookies) ได้ โดย “การตั้งค่าคุกกี้” หรือ การตั้งค่าในเว็บบราวเซอร์ (web browser) เช่น ห้ามการติดตั้งคุกกี้ลงบนอุปกรณ์ของท่าน
อย่างไรก็ตาม บริษัท สติวเดนท์ แคร์ จำกัด ขอแจ้งให้ท่านทราบว่า การปิดการใช้งานคุกกี้บางตัวอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของเว็บไซต์นี้ และอาจส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้เว็บไซต์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ